
วันครู 2566
เพราะคุณครูเป็นผู้มีบุญคุณต่อศิษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิต การที่มีเหล่าบรรดาลูกศิษย์ ได้แสดงความเคารพ สักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณเช่นคุณครู จึงถือเป็นธรรมเนียมและประเพณีที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน การที่ครูได้ทำให้ศิษย์หลายต่อหลายรุ่นก้าวไปถึงฝั่ง เพียงเพราะเปรียบครูเป็นเรือจ้าง แต่เรือจ้างนั้นก็พร้อมที่จะส่งศิษย์ทุกคนแม้เรือนั้นจะค่อยๆผุกร่อนไปตามกาลเวลา เพียงแค่ศิษย์กลับมาหาบ้างเรือนั้นก็จะอยู่ส่งศิษย์คนอื่นๆต่อไป
ความหมายของวันครู
ครู หมายถึง ผู้สั่งสอน ผู้ให้วิชาและถ่ายทอดความรู้ การอ่านเขียน เป็นผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา แก่ลูกศิษย์ และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ รวมไปถึงการให้ความรู้และแนะนำในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานสำหรับวันครูนั้น ถือว่าวันพฤหัสบดี คือ วันครู ตามความเชื่อโดยทั่วไปของไทย
วันครูของประเทศไทย
วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ.2500 คุณครู เป็นผู้ที่มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อศิษย์ทั้งหลาย ถัดมาจากคุณพ่อคุณแม่ เป็นวันที่ผองศิษย์ทั้งหลายได้ร่วมใจพร้อมใจกันมานอบน้อมเคารพคุณครู ตั้งแต่โบราณ ครูมีหน้าที่ในการแนะ คือว่าการสอนให้ความรู้แก่ศิษย์ และครูมีหน้าที่ในการนำคือ การทำให้ดู คือประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างแก่ศิษย์ ซึ่งคุณครูจะต้องเป็นผู้สอนและก็ทำตนให้เป็นแบบอย่างทีดีให้กับศิษย์ด้วยครูเป็นปูชนียบุคคลที่ศิษย์ควรจะเคารพบูชา และครูเปรียบเสมือนเรือจ้างที่จะคอยส่งลูกศิษย์ข้ามฝั่ง นั่นก็หมายถึง การอบรม สั่งสอนให้ศิษย์มีความรู้และวิชา รวมถึงการเป็นคนดีของสังคมอีกด้วย เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณของคุณครู จึงได้จัดให้วันที่16 มกราคม เป็นวันครู และเป็นวันหยุดของสถานศึกษา ซึ่งจะได้เป็นการให้ลูกศิษย์กลับไปแสดงความเคารพและตอบแทนผู้มีพระคุณนั่นเอง
วันครูของ ต่างประเทศ
วันครูไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย แต่วันครูแห่งชาติ มีด้วยกันทั้งหมดทั้งหมด 76 ประเทศทั่วโลก โรงเรียนทั่วทั้งประเทศหลายแห่งจะทำการเฉลิมฉลองวันครูซึ่งเป็นวันศุกร์ก่อนวันหยุดด้วย"คอนเสิร์ต"และการพบปะสังสรรค์ และนักเรียนจะมอบของขวัญให้แก่ครู อย่างเช่นดอกไม้และช็อคโกแลต ในวันหยุดของอาชีพตัวเอง คุณครูจำนวนมากจะร่วมฉลองกับครอบครัวและครอบครัวของพวกเขา ซึ่งวันครูทั่วโลกจะไม่ตรงกัน และบางประเทศที่ให้ความสำคัญกับวันครู ก็จะสั่งปิดโรงเรียน ส่วนบางประเทศก็ยังคงเปิดสอนตามปกติ
วันที่ใช้จัดงานวันครู
วันครูของประเทศไทย คือวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันหยุดของสถานศึกษา และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้กลับมาแสดงความเคารพและพบปะกับคุณครูผู้ที่เคยสอนในอดีต
ประวัติความเป็นมาของวันครู
วันที่ 16 มกราคม ของทุกปีได้กำหนดให้เป็น "วันครูแห่งชาติ" นักเรียนและครูหยุดการเรียนการสอน เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติ ครู เป็นผู้มีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย วันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บันดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณ
เพื่อเป็นวันแห่งการรำลึก ถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนทั้งประเทศ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น วันครู ของไทยได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ เมื่อ 16 มกราคม พ.ศ.2500 เพื่อบรรดาลูกศิษย์ได้แสดงความเคารพ สักการะต่อครูผู้มีพระคุณ การประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ.2488 ได้ระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา มีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครู ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู และมีการจัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร
ประกอบกับมีคุณครูบางกลุ่มที่มีการเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครู ในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ และประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน ซึ่งทำให้ที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาและมีมติเห็น ควรให้มีวันครู เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่าง ครูกับประชาชน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติ ให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น "วันครู"และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว

5 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
5 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมกำหนดให้ วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของชาติไทย ดังนี้
1. เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 - 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559) เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จสู่พระราชสมบัติตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย
2. เป็นวันชาติ : เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย เดิมกำหนดให้วันที่ ๒๔ มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันชาติ เนื่องจากเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ต่อมาใน พ.ศ. 2503 ได้เปลี่ยนมาเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระมหากษัตริย์ไทย ตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ และเป็นวันศูนย์รวมจิตใจความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ปัจจุบันจึงตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี
3. เป็นวันพ่อแห่งชาติ : วันพ่อแห่งชาติ มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษาเป็นผู้ริเริ่มหลักการและเหตุผลในการจัดตั้งวันพ่อแห่งชาติ เพราะพ่อเป็นผู้มีพระคุณที่มีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกให้ความเคารพเทิดทูนตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสมควรที่สังคมจะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.9) ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างนานัปการ ทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงรักใคร่และให้ดอกพุทธรักษาเป็นสัญลักษณ์ของวันพ่อแห่งชาติ
ตั้งแต่พุทธศักราช 2502 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไป ทรงกระชับสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆ ทั้งในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และ เอเชีย และได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆ ทุกภาคทรงประจักษ์ในปัญหาของราษฎร ในชนบทที่ดำรงชีวิตด้วยความยากจน ลำเค็ญและด้อยโอกาส ได้ทรงพระวิริยะอุตสาหะหาทางแก้ปัญหาตลอดมาตราบจนปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า ทุกหนทุกแห่งบนผืนแผ่นดินไทยที่รอยพระบาทได้ประทับลง ได้ทรงขจัดทุกข์ยากนำความผาสุกและทรงยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น ด้วยพระบุญญาธิการและพระปรีชาสามารถปราดเปรื่อง พร้อมด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขของราษฎร และเพื่อความเจริญพัฒนาของประเทศชาติตลอดระยะเวลาโดยมิได้ทรงคำนึงประโยชน์ สุขส่วนพระองค์เลย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานโครงการนานัปการมากกว่า 4,000 โครงการ ทั้งการแพทย์สาธารณสุข การเกษตร การชลประทาน การพัฒนาที่ดิน การศึกษา การพระศาสนา การสังคมวัฒนธรรม การคมนาคม ตลอดจนการเศรษฐกิจเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรในชนบท ทั้งยังทรงขจัดปัญหาทุกข์ยากของประชาชนในชุมชนเมือง เช่น ทรงแก้ปัญหาการจราจร อุทกภัย และปัญหาน้ำเน่าเสียในปัจจุบัน ได้ทรงริเริ่มโครงการการช่วยสงเคราะห์ และอนุรักษ์ช้างไทยอีกด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรากตรำพระวรกายทรงงานอย่างมิทรงเหน็ดเหนื่อย แม้ในยามทรงพระประชวร ก็มิได้ทรงหยุดยั้งพระราชดำริเพื่อขจัดความทุกข์ผดุงสุขแก่พสกนิกร กลางแดดแผดกล้าพระเสโทหลั่งชุ่มพระพักตร์และพระวรกายหยาดตกต้องผืนปฐพี ประดุจน้ำทิพย์มนต์ชโลมแผ่นดินแล้งร้างให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์นับแต่ เสด็จเถลิงถวัลย์ราชย์ตราบจนปัจจุบัน แม้ในยามประเทศประสบภาวะเศรษฐกิจ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา ก็ได้พระราชทานแนวทางดำรงชีพแบบ “เศรษฐกิจพอเพียง” และ “ทฤษฎีใหม่” ให้ราษฎรได้พึ่งตนเอง ใช้ผืนแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดประกอบอาชีพอยู่กินตามอัตภาพซึ่งราษฎร ได้ยึดถือปฏิบัติเป็นผลดีอยู่ในปัจจุบัน
- 13 ตุลาคม วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
- ๑๒ สิงหาคม เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
- "Army Bike สานฝันปันสุข"
- วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว